วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ธรรมะนั้น เป็นสิ่งซึ่งมิอาจจากพรากแม้ชั่วขณะ จากพรากได้มิใช่ธรรมะ - 道也者,不可须臾离也。可离非道也。

ธรรมะนั้น เป็นสิ่งซึ่งมิอาจจากพรากแม้ชั่วขณะ จากพรากได้มิใช่ธรรมะ - 道也者,不可须臾离也。可离非道也。


"ธรรมะ" เมื่ออยู่กับสภาวะของมหาจักรวาลก็คือ "หลักสัจธรรม" ของการดำรงอยู่ของสิ่งต่างๆ ในมหาจักรวาล เช่น การดำรงอยู่ของตะวัน เดือน ดวงดาว ลมฟ้าอากาศ การดำรงอยู่ของสรรพสิ่งและการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ทดแทนกัน อันเป็นหลักเที่ยงแท้แน่นอน

"ธรรมะ" เมื่ออยู่กับคน นั่นคือ พลังงานวิเศษแยบยล เมื่อพลังงานวิเศษแยบยลนั้น อยู่กับกายเนื้อ กายเนื้อจึงเคลื่อนไหวได้ พัฒนาเจริญเติบโตได้

"ธรรมะ" เมื่ออยู่กับคน นั่นคือจิตญาณตัวรู้อันวิเศษแยบยล คนจึงมีความรู้สึกคิดต่างๆ ได้

"ธรรมะ" เมื่ออยู่กับคน นั่นคือคุณสมบัติสูงส่งดีงาม คนจึงมีจิตสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดี มีเมตตากรุณาธรรม

"ธรรมะ" อันเป็นคุณสมบัติสูงส่งดีงาม แม้หากจากพรากไป ความชั่วร้ายจะครอบงำผู้นั้น

"ธรรมะ" อันเป็นพลังงานวิเศษ แม้หากจากพรากละทิ้งสังขารไป กายเนื้อที่เหลืออยู่ จะเป็นเพียงซากศพ

"ธรรมะ" อันเป็นจิตญาณ แม้หากพรากจากกาย จิตญาณไม่อยู่ควบคุมบงการสังขาร สังขารนั้นแม้จะมีลมหายใจ ก็เท่ากับตาย

ท่านบรมครูจอมปราชญ์ขงจื่อ ซึ่งเป็นครูผู้รู้ดีแล้วตั้งแต่ครั้งสองพันห้าร้อยกว่าปีก่อน จึงได้โปรดสั่งสอนศิษย์ทั้งสามพันคนของท่าน ให้หมั่นสำเหนียกความสำคัญยิ่งของ "ธรรมะ" ในตนอยู่เสมอว่า

"ธรรมะ" นั้นเป็นสิ่งซึ่งมิอาจจากพรากแม้ชั่วขณะ สิ่งอันจากพรากได้ มิใช่ "ธรรมะ"




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น