วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

ธรรมะกับเราเกี่ยวข้องกันอย่างไร ?

     คุณวิเศษของธรรมะอยู่ที่ความยิ่งใหญ่ครอบคลุมทุกสิ่ง ความละเอียดเล็กจนเข้าได้ทุกที่ หลังจากฟ้าดินก่อเกิดแล้ว ธรรมะแทรกซอนไปทั่วฟ้าดินและสรรพสิ่ง ทำให้การเคลื่อนโคจรของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างเป็นไปตามกาลเวลา การหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนของฤดูกาล การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของสรรสิ่งล้วนมีระเบียบกฏเกณฑ์

     และสิ่งล้ำค่าที่สุดก็คือ ผู้ควบคุมฟ้าดินและสรรพสิ่งนี้ ยังควบคุมทั่วร่างกายของพวกเรา นั่นเรียกว่า "ธรรมญาณ" ทำให้พวกเรามองเห็น ฟังได้ กินได้ เคลื่อนไหวได้โดยไม่ต้องเรียนรู้ ดังนั้นพวกเราไม่เพียงต้องขวนขวายศึกษาหลักธรรมอันสูงสุดของฟ้าดินแล้ว ยิ่งต้องหันกลับมาทำความเข้าใจสัจธรรมที่มีมาแต่เดิมในตัวเรา ฉะนั้น "มหาธรรมฟ้าปางก่อน" ก็คือ "การถ่ายทอดสัจธรรมแห่งญาณเดิม" นั่นเอง

     คุณวิเศษของธรรมะ ไม่ใช่อยู่ที่ว่ามีอะไรลึกลับ หายากหรือมีอะไรพิเศษ แต่อยู่ที่ความเป็นปกติธรรมดา ทว่าทุกเวลาพวกเรากลับไม่อาจออกห่างจากองค์ธาตุและคุณประโยชน์อันแยบยลแห่งธรรมได้เลย

     หากพวกเราย้อนมองตนเอง ก็จะรู้ว่าโครงสร้างร่างกายของพวกเรานั้นมีความสลับซับซ้อนและน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง แต่ก็เกี่ยวโยงไปถึงบทบาททางกายภาพของข้อต่อและปฏิกิริยาของพลังงาน การถ่ายทอดสัญญาณข้อมูลของระบบประสาท ตลอดจนการแยกและวินิจฉัยและถ่ายทอดคำสั่งของสมอง ซึ่งตามมาตรฐานด้านวิทยาการและเทคโนโลยีของโลกในปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถที่จะอธิบายได้ทั้งหมด

     แต่ความสามารถของพวกเราที่กระทำออกมานี้ กลับไม่มีผลกระทบอย่างไรต่อความแตกต่างในระดับความรู้ความเข้าใจของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการที่มีความรู้มากมาย หรือคนหาบเร่ที่ไม่รู้หนังสือ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือทารกแรกเกิด ล้วนเคลื่อนไหวเช่นนี้ได้อย่างง่ายดาย ทุกคนมีมาตั้งแต่เกิด รู้ได้โดยไม่ต้องพิจารณาทำได้โดยไม่ต้องเรียนรู้ เป็นปรีชาญาณและสัญชาตญาณที่ไม่มีการเพิ่มหรือลด นั่นก็คือ "ธรรมะ" ที่ควบคุมตัวเรา

     ความรู้ความสามารถที่พวกเราได้จากการศึกษานั้น บางทีอาจจะลืมไปหรือห่างเหินไปบ้าง แต่องค์ธาตุและประโยชน์อันแยบยลแห่งธรรมนั้น ไม่ต้องเรียนรู้ ไม่ต้องคิดพิจารณา ในวงกว้างสามารถควบคุมการเพิ่มหรือลดของสรรพสิ่งในจักรวาล ในวงแคบสามารถควบคุมการเห็น การฟัง การพูด การเคลื่อนไหวของร่างกายเรา เป็นสิ่งที่พวกเรามีอยู่แต่ไม่รู้ว่ามี ใช้ประโยชน์อยู่แต่ไม่รู้ว่าได้ใ้ช้ แต่ทุกขณะกลับขาดไม่ได้ สิ่งที่ไม่เพิ่มไม่ลดนี้ เดิมทีก็มีพร้อมสมบูรณ์อยู่แล้ว เป็น "ธรรมะ" ที่มีอยู่ในตัวเรา ก็เพราะอยู่ในตัวเรา จึงเรียกว่า "จิตญาณเดิมแห่งองค์ธรรมมารดา"

     พวกเราได้เข้าใจถึง "ธรรมะ" นี้ที่ควบคุมฟ้าดินและสรรพสิ่งในตัวของเราก็มี บทบาทของธรรมไม่ได้มีมากขึ้นหรือลดน้อยลงไป เพราะการยกย่องหรือไม่ยอมรับจากพวกเรา ไม่ว่าเผ่าพันธุ์ สีผิวสัญชาติ การนับถือศาสนา หรือร่ำรวยสูงศักดิ์ฺ ยากจนต่ำต้อย ล้วนไม่มีความแตกต่าง

     ดังนั้น เมื่อพวกเราได้รับ "มหาธรรมฟ้าปางก่อน" ไม่เพียงค้นพบต้นกำเนิดของจักรวาล ยังค้นพบตัวตนแท้ที่ไม่เกิดไม่ดับ ไม่เพียงได้รู้จักผู้ควบคุมสูงสุดของจักรวาล ยังได้รู้จักผู้ควบคุมที่แท้จริงในตัวเรา ไม่เพียงได้ค้นพบหลักธรรมอันสูงสุดของจักรวาล ยังค้นพบสัจธรรมและปรีชาญาณ สัญชาตญาณที่มีอยู่แล้วในตัวเราด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น